งานประสานงาน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กรุงเทพมหานคร
Maejo University Coordinating Office , Bangkok Thailand
  1. ก่อนหน้านี้ที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นนั้น ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ.2556 และสามารถพำนักในประเทศญี่ปุ่นได้ 15 วัน (หากผู้ยื่นประสงค์จะพำนักในประเทศญี่ปุ่นเกิน 15 วัน หรือไปทำงาน หรือมีวัตถุประสงค์อื่นๆ จะต้องยื่นขอวีซ่าตามปรกติ)

  2. การยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศไทย

  3. ผู้ที่จะเข้าประเทศได้นั้น จะต้องผ่านการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองก่อนจึงจะสามารถเข้าประเทศได้ (เช่นเดียวกับผู้ที่ยื่นขอวีซ่ากับทางสถานเอกอัครราชทูต) ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะสอบถามถึงวัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศ หรือขอตรวจเอกสารที่จำเป็น เช่น ตั๋วเครื่องบินขากลับ หรืออื่นๆ

  4. หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายวีซ่า แผนกกงสุล สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น หมายเลขติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ 02-207-8503 หรือ 02-696-3003
ปรับปรุงข้อมูล : 1/1/2557 0:00:00     ที่มา : งานประสานงาน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กรุงเทพมหานคร     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 2510

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประกาศ

ข่าวล่าสุด

มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดพิธีดำหัวผู้อาวุโสและอธิการบดี ประจำปี 2568 สืบสานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง
      วันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568  มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดพิธีดำหัวผู้อาวุโสและอธิการบดี ประจำปี 2568 ร่วมสืบสานประเพณีปี๋ใหม่เมือง  โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.เทพ พงษ์พานิช นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นประธานอวยพรปีใหม่, รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผู้แทนกล่าวขอขมาและขอพร จากนั้นคณะผู้บริหาร ผู้แทนแต่คณะ/สำนัก ร่วมประเคนของดำหัวผู้อาวุโส ณ  ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้       พิธีดำหัวอธิการบดีและผู้อาวุโสของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการร่วมขอขมา  คารวะผู้อาวุโส และเป็นการสืบสานประเพณีปีใหม่เมืองของชาวล้านนาหรือประเพณีปีใหม่ไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์
28 เมษายน 2568     |      13
มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดพิธีดำหัวนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำปี 2568
วันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดพิธีดำหัวนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำปี 2568 โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.เทพ พงษ์พานิช นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นประธานอวยพรปีใหม่, รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผู้แทนกล่าวขอขมาและขอพร จากนั้นนำคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย และคณะกรรมการสภาฯ และบุคลากร ประกอบพิธีดำหัวนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อแสดงถึงความเคารพนบน้อม กตัญญูกตเวทีต่อผู้ทรงคุณวุฒิ และขอขมาลาโทษ พร้อมทั้งขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของชาวล้านนาอันทรงคุณค่า  ณ ห้องคาวบอยโซน ชั้น 5 สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้
28 เมษายน 2568     |      13
กระทรวง อว.ถก สตม. 23 เม.ย. นี้ กำหนดแนวทางเข้ม ตรวจนักศึกษาต่างชาติใช้วีซ่าเรียนลอบทำงานในไทย “ศุภมาส ” ลั่น หากพบสถานศึกษาใดมีส่วนรู้เห็นจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของ ...
         เมื่อวันที่ 22 เม.ย.68 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยถึงการดำเนินการตรวจสอบกรณีที่มีข่าวว่าคนจีนได้วีซ่านักเรียนมาทำงานในไซต์งานก่อสร้างต่างๆ ของไทย โดยมีมหาวิทยาลัยบางแห่งเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ว่า ขณะนี้ ตนได้สั่งการให้กระทรวง อว. มีหนังสือถึงวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) และมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีทุนจีนถือหุ้นทั้ง 3 แห่ง ให้รายงานข้อมูลนักศึกษาจีนที่มาเรียน ทั้งจำนวนสาขาที่เรียน เวลาที่ใช้เรียนจนจบการศึกษา และวีซ่านักเรียนที่ได้รับ โดยขอให้ส่งรายละเอียดทั้งหมดมายังกระทรวง อว. ภายใน 1 สัปดาห์ นอกจากนี้สิ่งที่กระทรวง อว. กำลังจะดำเนินการควบคู่กัน คือ การทำงานร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) โดยตนได้มอบหมายให้ น.ส.สุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. เป็นผู้แทนร่วมหารือกับ สตม. ในวันที่ 23 เมษายน นี้ ที่กระทรวง อว. เพื่อกำหนดแนวทางการตรวจสอบและติดตามนักศึกษาต่างชาติที่เดินทางเข้ามาศึกษาในประเทศไทยอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่มีข้อสงสัยว่านักเรียนต่างชาติใช้วีซ่านักเรียนเป็นช่องทางในการเข้ามาทำงานผิดกฎหมาย     น.ส.ศุภมาส กล่าวต่อว่า การหารือร่วมกับ สตม. ในครั้งนี้ จะเป็นการบูรณาการข้อมูลระหว่างกระทรวง อว. กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้สามารถตรวจสอบสถานะและพฤติกรรมของนักศึกษาต่างชาติได้อย่างเป็นระบบ และหากพบว่าสถานศึกษาใดมีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการใช้สถานะนักศึกษาในทางที่ไม่ถูกต้อง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด      “กระทรวง อว. ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น และจะเร่งดำเนินการให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของระบบการอุดมศึกษาไทย และไม่ให้ประเทศไทยถูกใช้เป็นช่องทางในการลักลอบเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย” รมว.อว. กล่าว       ทั้งนี้ กระทรวง อว. จะเร่งจัดทำฐานข้อมูลกลางของนักศึกษาต่างชาติในประเทศไทย เพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเตรียมทบทวนนโยบายและมาตรการในการรับนักศึกษาต่างชาติให้รัดกุมมากยิ่งขึ้นในอนาคต
23 เมษายน 2568     |      19