งานประสานงาน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กรุงเทพมหานคร
Maejo University Coordinating Office , Bangkok Thailand

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า การเข้าทำงานในฐานะ รมว.อว. ตนตั้งใจที่จะทำให้งานอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผ่านการใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อทำให้ประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ปานกลางและเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศไปสู่อุตสาหกรรมสมัยใหม่และมีมูลค่าสูง ซึ่งต้องอาศัยกำลังคนทักษะสูง การวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ การสร้างผู้ประกอบการหรือ Tech Start-up ให้กับประเทศ ซึ่งแน่นอน กระทรวง อว. มีบทบาทสำคัญมากในเรื่องนี้ อีกทั้งตนเคยดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงวัฒนธรรม ดูแลงานท่องเที่ยวและโครงการ Soft Power ที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลมาก่อน จึงทราบดีว่าการที่จะขับเคลื่อนนโยบายเหล่านี้ ต้องอาศัยมหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัยต่างๆ เข้ามาช่วยสนับสนุนทั้งด้านการเตรียมคน การพัฒนาทักษะกำลังคน และการใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีใหม่ๆ

.

รมว.อว. กล่าวต่อว่า นโยบายการทำงานของกระทรวง อว.จะแบ่งเป็น 2 ด้าน ด้านแรก คือ การพัฒนากำลังคน เน้นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงอุดมศึกษาของคนในประเทศ พร้อมกับเรื่องการพัฒนากำลังคนของประเทศเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในปัจจุบันและอนาคต ได้แก่ 1.ส่งเสริมทุนเพื่อการเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา เช่น การอุดหนุนค่าสมัครการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา(TCAS) เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา โดยจะสนับสนุนเงินอุดหนุนค่าสมัครสอบในการสอบวัดความถนัดทั่วไป TGAT ในอัตรา 140 บาทต่อคน ค่าสมัครสอบรอบที่ 3 แอดมิชชั่นในระบบ TCAS โดยผู้สมัครสามารถเลือกสมัครได้สูงสุด 7 อันดับฟรี ในอัตรา 600 บาทต่อคน และใน TCAS ปีนี้จะสนับสนุนค่าสมัครสอบวัดความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ TPAT1-5 เพิ่มเติม (TPAT 1 สอบ กสพท. อัตรา 800 บาทต่อคน และ TPAT 2-5 อัตรา 140 บาทต่อคน) ซึ่งคาดว่าจะมีนักเรียนและผู้ปกครองได้รับประโยชน์กว่า 733,750 คน และการสนับสนุนทุนเพื่อนักศึกษาพิการ ทุนเพื่อเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ทุน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทุนอื่นๆ อีกจำนวน 7,900 ทุน แบ่งเป็นทุนคนพิการ 2,000 ทุน ทุนเพื่อเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล 3,173 ทุน ทุนสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 355 ทุน ทุนสำหรับนักศึกษาเรียนดีแต่ยากจน 80 ทุน สนับสนุนทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในประเทศ (จังหวัดชายแดนภาคใต้) 2,324 ทุน และจะให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2.ทุนเพื่อให้โอกาสเรียนปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก สำหรับเด็กเรียนดี จำนวน 2,800 ทุน ซึ่งจะมีทั้งทุนด้านวิทยาศาสตร์ และทุนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ฯ โดยเน้นการส่งเสริมกำลังคนตามความต้องการของประเทศ และปรับเงื่อนไขการรับทุนการชดใช้ทุนเพื่อให้ผู้รับทุนสามารถสร้างประโยชน์ในภาคเอกชนนอกเหนือจากภาครัฐอย่างเดียว และ 3. ทุนเพื่อพัฒนากำลังคนเฉพาะทางในสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศอย่างเร่งด่วน เช่น ด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ด้าน AI ด้าน EV รวมถึง Soft Power หลายด้าน เช่น ด้านอาหาร ด้านท่องเที่ยว และด้านกีฬา เป็นต้น

.

 น.ส.สุดาวรรณ กล่าวอีกว่า ขณะที่ด้านที่สองคือการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ซึ่งกระทรวง อว. มีกองทุนส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรม ที่ได้รับงบประมาณ 19,828 ล้านบาท ตนอยากเห็นว่า การวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกิดผลกระทบ (Impact) จริงต่อทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม จึงมีนโยบาย ดังนี้ 1.ขอให้เน้นประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน การจัดสรรทุน การจัดสรรงบประมาณไปยังหน่วยให้ทุนหรือ PMU และจาก PMU ไปยังมหาวิทยาลัยและนักวิจัย ต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมในทุกมิติทั้งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ ธุรกิจชุมชน SMEs อุตสาหกรรมสมัยใหม่ รวมถึงการทำวิจัยที่ส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้สมัยใหม่ การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง 2.การนำ ววน. ไปช่วยสนับสนุนภาคเกษตร ให้สามารถแข่งขันได้ โดยต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีองค์ความรู้ด้าน ววน. ไปช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน ยกระดับคุณภาพผลผลิต การนำเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัย สามารถควบคุมปัจจัยการผลิตต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ เช่น การทำเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) โดยเฉพาะในพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ เช่น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา เป็นต้น 3. นำ ววน. ไปช่วยเรื่องการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เช่น PM 2.5 น้ำท่วม ภัยแล้ง เป็นต้น เพื่อพัฒนาและเร่งแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และภัยพิบัติ ในหลายๆ ด้าน และ 4. ส่งเสริมการวิจัยในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ส่งเสริมการสร้างอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของประเทศ ทั้งจากการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และการสร้าง Deep tech start-up ในประเทศ เช่น ด้านยานยนต์สมัยใหม่ อาหารแห่งอนาคต เศรษฐกิจอวกาศ (Space economy) AI เซมิคอนดักเตอร์ และ อิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูง

.

“ที่สำคัญ ดิฉันและทั้งองคาพยพของกระทรวง อว.จะร่วมกันสร้าง “1 มหาวิทยาลัย 1 ภารกิจ เพื่อท้องถิ่น” เป็นการดึงศักยภาพทั้งกำลังของคนและวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมของกระทรวง อว. มาสร้างการพัฒนาในระดับพื้นที่ เพราะปัจจุบันเรามี “อว. ส่วนหน้า” ประจำจังหวัดต่างๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่อยู่แล้ว และหลังจากนี้แต่ละหน่วยงาน ทั้งสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย จะเข้าไปดูว่าในแต่ละพื้นที่ที่ตนดูแลหรือเข้าไปเกี่ยวข้อง มีปัญหาอะไรที่ควรจะเข้าไปดูแลจัดการ โดยใช้การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) เข้าไปช่วยในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ และต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น ปัญหาผลผลิตเกษตรตกต่ำ ปัญหาสภาพดิน ปัญหาโรคพืช ปัญหาแปรรูปสินค้า ปัญหา PM 2.5. ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง คุณภาพน้ำ ปัญหาขยะ เป็นต้น” น.ส.สุดาวรรณ กล่าว

ปรับปรุงข้อมูล : 14/7/2568 8:29:56     ที่มา : งานประสานงาน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กรุงเทพมหานคร     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 71

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดงานแสดงกตเวทิตาจิตผู้เกษียณอายุ ประจำปี 2568 “กตเวทิตาจิต ร้อยดวงใจสานสายใยชาวแม่โจ้”
วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2568 มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดงานแสดงกตเวทิตาจิตผู้เกษียณอายุ ประจำปี 2568 “กตเวทิตาจิต ร้อยดวงใจสานสายใยชาวแม่โจ้” เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ ตระหนักถึงความสำคัญและความเสียสละของบุคลากรทุกท่าน และร่วมน้อมคารวะต่อผู้อาวุโสที่ครบวาระเกษียณอายุ ผู้สร้างคุณูปการต่อองค์กรและต่อสังคม โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานในพิธี กล่าวขอบคุณและอวยพรแด่ผู้เกษียณอายุ พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร. เกรียงศักดิ์ ศรีเงินยวง รองอธิการบดี กล่าวรายงาน ซึ่งในปีนี้ มีจำนวน 34 ท่าน แบ่งเป็น ข้าราชการ จำนวน 3 ราย 1.รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัลรัตน์ รัตนเดชานาคินทร์ ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ สังกัดคณะวิทยาศาสตร์ 2.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทุเรียน ทาเจริญ ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะวิทยาศาสตร์ 3.นางพิทยา สุนทราวงศ์ ตำแหน่ง บรรณารักษ์ชำนาญการพิเศษ สังกัดฝ่ายพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักหอสมุด ลูกจ้างประจำ จำนวน 1 ราย 1.นายสวาท ใจสักเสริญ ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ ระดับ ส 2 สังกัดงานบริหารและธุรการ สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร พนักงานมหาวิทยาลัย จำนวน 24 ราย 1.รองศาสตราจารย์จักรพงษ์ พิมพ์พิมล ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ สังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร 2.รองศาสตราจารย์ ดร.ธีรนุช เจริญกิจ ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ สังกัดคณะผลิตกรรมการเกษตร 3.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิภัทร เจียมพิริยะกุล ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะผลิตกรรม การเกษตร 4.นายรุ่งโรจน์ มณี ตำแหน่ง นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ สังกัด สำนักงานคณบดีคณะผลิตกรรมการเกษตร คณะผลิตกรรมการเกษตร 5.นายเขต ศรีพรรณ ตำแหน่ง หัวหน้างานบริการการศึกษาและกิจการนักศึกษา สำนักงานคณบดีคณะผลิตกรรมการเกษตร คณะผลิตกรรมการเกษตร 6.อาจารย์กัญญา บุตราช ตำแหน่ง อาจารย์ สังกัดคณะวิทยาศาสตร์ 7.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กระสินธุ์ หังสพฤกษ์ ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ 8.นายสุฤทธิ์ สมบูรณ์ชัย ตำแหน่ง นักวิชาการประมงชำนาญการ สังกัดงานบริการวิชาการและวิจัย คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ 9.นางนวนจันทร์ ทองมา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานคณบดีคณะพัฒนาการท่องเที่ยว สังกัด คณะพัฒนาการท่องเที่ยว 10. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยะพันธุ์ นันตา ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะศิลปศาสตร์ 11. รองศาสตราจารย์ ดร.อารีย์ เชื้อเมืองพาน ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ สังกัดคณะเศรษฐศาสตร์ 12. ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัจฉรี เหมสันต์ ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และ การออกแบบสิ่งแวดล้อม 13. นางรัตนา กันตีโรจน์ ตำแหน่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สังกัด คณะพยาบาลศาสตร์ 14. นางณิชาพล บัวทอง ตำแหน่ง นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ สังกัดงานบริการการศึกษาและกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ – ชุมพร 15. นายธนวัฒน์ รอดขาว ตำแหน่ง นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สังกัดงานปรับปรุงและขยายพันธุ์พืชและสัตว์ สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร 16. นางสาวฐิตารีย์ พรหมเศรษฐการ ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหารปฏิบัติงาน สังกัดฝ่ายพัฒนาการศึกษาและหลักสูตร สำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ 17. นางธัญลักษณ์ อารยพิทยา ตำแหน่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สังกัดงาน กองแผนงาน สำนักงานมหาวิทยาลัย 18. นางสาวอนงค์ ไชยแก้ว ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหารปฏิบัติงาน สังกัด กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัย 19. นายอนุสรณ์ วิจารณ์ปรีชา ตำแหน่ง นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ สังกัด กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม สำนักงานมหาวิทยาลัย 20. นายกฤษฎา ยศเดช ตำแหน่ง นักบริหารงานอาคารสถานที่ปฏิบัติการ สังกัด กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานมหาวิทยาลัย 21. นายสมมิตร ทองยู ตำแหน่ง ช่างเทคนิคปฏิบัติงาน สังกัดงานระบบสาธารณูปโภค กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานมหาวิทยาลัย 22. นายปรีดา ริณพัฒน์ ตำแหน่ง ช่างเทคนิคปฏิบัติงาน สังกัด กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานมหาวิทยาลัย 23. นายทองคำ ธุงศรี ตำแหน่ง พนักงานขับรถปฏิบัติงาน สังกัด กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานมหาวิทยาลัย 24. นายพัลลภ ดวงบาล ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานการเกษตรปฏิบัติงาน สังกัดฟาร์มมหาวิทยาลัย พนักงานส่วนงาน จำนวน 6 ราย 1.นายเกียรติยศ บุญเรือง ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานการเกษตร สังกัด สำนักงานคณบดีคณะผลิตกรรมการเกษตร คณะผลิตกรรมการเกษตร 2.นายสถิตย์ ดวงดี ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานการเกษตร สังกัด สำนักงานคณบดีคณะผลิตกรรมการเกษตร คณะผลิตกรรมการเกษตร 3.นายมรรยาท กาศวิราช ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานการเกษตร สังกัด สำนักงานคณบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ - แพร่ เฉลิมพระเกียรติ 4.นางพินธรา สำราญสกุล ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ สังกัดงาน กองบริหารงานบริการวิชาการ สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร 5.นายวินัย อุปนันท์ ตำแหน่ง พนักงานขับรถ สังกัด กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัย 6.นายดวงจันทร์ ด้วงไม้ ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานการเกษตร สังกัด กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานมหาวิทยาลัย โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ธีรนุช เจริญกิจ เป็นผู้แทนผู้เกษียณอายุกล่าวแสดงความรู้สึก โดยมี ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรในสังกัด ร่วมแสดงกตเวทิตาจิตอย่างอบอุ่น ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
19 กันยายน 2568     |      484
อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้เข้าร่วมโครงการจัดการสัมมนาเรื่อง “สร้างโอกาสการเคลื่อนย้ายในโลกไร้พรมแดน: การเตรียมประเทศไทยสู่การรับรองคุณวุฒิการศึกษาระดับภูมิภาคและระดับโลกของยูเนสโก” “Opening Doors for Global Mobility: Preparing Thailand for the Asia-Pacific and Global Conventions on Qualifications Recognition”
วันอังคารที่ 16 กันยายน 2568 รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เข้าร่วมโครงการจัดการสัมมนาเรื่อง “สร้างโอกาสการเคลื่อนย้ายในโลกไร้พรมแดน: การเตรียมประเทศไทยสู่การรับรองคุณวุฒิการศึกษาระดับภูมิภาคและระดับโลกของยูเนสโก” “Opening Doors for Global Mobility: Preparing Thailand for the Asia-Pacific and Global Conventions on Qualifications Recognition” ซึ่งจัดขึ้นโดย กองการต่างประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ณ ห้องประชุมแมนดาริน โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้ ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดการสัมมนา “สร้างโอกาสการเคลื่อนย้ายในโลกไร้พรมแดน: การเตรียมประเทศไทยสู่การรับรองคุณวุฒิการศึกษาระดับภูมิภาคและระดับโลกของยูเนสโก (Opening Doors for Global Mobility: Preparing Thailand for the Asia-Pacific and Global Conventions on Qualifications Recognition)” มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจในหลักการสำคัญและประโยชน์ของ อนุสัญญาว่าด้วยการรับรองคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Tokyo Convention) และ อนุสัญญาโลกว่าด้วยการรับรองคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา (Global Convention) โดยมี Ms. Soohyun Kim, Director, UNESCO Regional Office in Bangkok and Office for UN Coordination for Asia and the Pacific พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัยจากทั่วประเทศ ผู้ทรงคุณวุฒิจากไทยและต่างประเทศ ข้าราชการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างคับคั่ง รัฐบาลได้กำหนดการพัฒนาอุดมศึกษาสู่ความเป็นสากลเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ขับเคลื่อนนวัตกรรม และพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน การผลักดันให้ประเทศไทยเข้าร่วมและให้สัตยาบันอนุสัญญาโตเกียวและอนุสัญญาโลก จึงถือเป็นก้าวย่างเชิงยุทธศาสตร์ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานการศึกษาระดับโลก แต่ยังทำให้ไทยเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ ปลัดกระทรวง อว. กล่าวต่อว่า การให้สัตยาบันอนุสัญญาทั้งสองฉบับนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์สำคัญ ได้แก่ การเปิดโอกาสให้นักศึกษา นักวิจัย และคณาจารย์ไทยสามารถเคลื่อนย้ายและแลกเปลี่ยนความรู้ข้ามพรมแดนได้อย่างสะดวกมากขึ้น เกิดการยกระดับความเชื่อมั่นในคุณวุฒิการศึกษาของไทยในเวทีสากล และการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการและการวิจัยกับนานาประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 4 ว่าด้วยการศึกษาที่มีคุณภาพ เท่าเทียม และทั่วถึงข่าว/ภาพ : งานประสานงาน (สป.อว. กรุงเทพฯ) กองกลาง 
17 กันยายน 2568     |      36
ผู้แทนมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เข้าร่วมงาน "Southeast Asia Trade and Development Forum 2025" ชี้ทิศทางการค้าโลกที่ไทยต้องรู้ ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน 2568 รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มอบหมายให้ นางตรีรัตน์ มาร์คว๊าร์คเสน หัวหน้างานประสานงาน (กรุงเทพฯ) กองกลาง เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยเข้าร่วมงาน "Southeast Asia Trade and Development Forum 2025" ชี้ทิศทางการค้าโลกที่ไทยต้องรู้ ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯโดยสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD เปิดเวทีสัมมนาระดับภูมิภาค “Southeast Asia Trade and Development Forum 2025” ภายใต้หัวข้อ “The Changing Realities of International Trade” ระดมสมองจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก นักเศรษฐศาสตร์ ผู้กำหนดนโยบาย และภาคธุรกิจไทย-อาเซียน เพื่อชี้ทิศทางการค้าโลกและ วางกลยุทธ์รับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจที่ทวีความซับซ้อน ภายในงานผู้ร่วมเสวนาเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของอาเซียนในการเป็นกลไกกลาง ท่ามกลางความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจดิจิทัล การกีดกันทางการค้า และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้น พร้อมเสนอแนวทางเชิงนโยบายเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ – เชื่อมผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดภูมิภาคและโลก โดยได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานกรรมการ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนาเป็นประธานเปิดงาน
12 กันยายน 2568     |      41
อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้เข้าร่วมพิธีเปิดงานนิทรรศการการศึกษาไต้หวันและเส้นทางสู่อาชีพ ประจำปี 2568 และลงนามความร่วมมือด้านวิชาการด้านการศึกษากับมหาวิทยาลัยในไต้หวัน
วันที่ 30 - 31 สิงหาคม 2568 รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดี เข้าร่วมพิธีเปิดงานนิทรรศการการศึกษาไต้หวันและเส้นทางสู่อาชีพ ประจำปี 2568 ”2025 Taiwan Higher Education Fair & Job Counseling ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ฮอลล์ 1 ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ ในการนี้ อธิการบดีได้ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการ International Talent Circulation Base (INTACT Base) ร่วมกับมหาวิทยาลัยในไต้หวัน National Pingtung University of Science and Technology National, Chung Hsing University และ National Sun Yat-sen University ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาพันธมิตรมีความประสงค์ที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์และพัฒนากิจกรรมความร่วมมือด้านการศึกษา โดยตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อมุ่งสู่ความเป็นสากลของการศึกษาระดับอุดมศึกษาซึ่งตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาและอุตสาหกรรมระหว่างไต้หวันและไทย และส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถในระดับนานาชาติกิจกรรมภายในงานมีมหาวิทยาลัยไต้หวัน 39 แห่ง ที่มาร่วมจัดนิทรรศการเพื่อประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยและหลักสูตรการศึกษาต่อในระดับปริญญา คอร์สเรียนภาษาจีนระยะสั้น หลักสูตร INTENSE Program ทุนการศึกษา (รัฐบาล & มหาวิทยาลัย) ข้อมูลการสอบภาษาจีน TOCFL (ยื่นทุน สมัครเรียนหรือสมัครงาน) กิจกรรมวัฒนธรรมโดยอาจารย์ชาวไต้หวัน การแบ่งปันประสบการณ์การเรียนกับรุ่นพี่นักศึกษาไทยที่กำลังศึกษาและเคยศึกษาที่ไต้หวัน นอกจากนี้ มีบริษัทไต้หวันอีก 11 แห่ง ที่มาให้ข้อมูลและคำปรึกษาการสมัครตำแหน่งงานในไต้หวันให้กับนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจข่าว / ภาพ : งานประสานงาน (กรุงเทพฯ) กองกลางytjyjr
5 กันยายน 2568     |      217