การพิสูจน์ความผูกพันภายนอกสหรัฐอเมริกา กฎหมายว่าการเข้าเมืองสหรัฐฯ บัญญัติว่า บุคคลต่างด้าวทุกคนจะถูกสันนิฐานว่ามีเจตนาจะอยู่ในอยู่ในสหรัฐฯ ถาวร จนกระทั่งบุคคลดังกล่าวสามารถแสดงให้เจ้าหน้าที่กงสุลเห็นจนเป็นที่พอใจ ขณะสัมภาษณ์วีซ่าประเภทชั่วคราว (NIV) และต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ขณะสมัครเข้าสหรัฐฯ ว่าตนไม่มีความตั้งใจจะไปอยู่ในสหรัฐฯ เป็นการถาวร หน้าที่ใน การพิสูจน์ดังกล่าวเป็นของผู้สมัคร หากผู้สมัครไม่สามารถพิสูจน์ได้จนเป็นที่พอใจของเจ้าหน้าที่กงสุล ตามกฎหมายแล้ว ถือว่าบุคคลต่างด้าวผู้นั้นเป็นผู้สมัครที่ต้องการอยู่ในสหรัฐฯ อย่างถาวร และไม่ควรได้รับวีซ่าประเภทชั่วคราว (NIV) ผู้สมัครสามารถพยายามหักล้างข้อสันนิฐานดังกล่าวโดยการแสดงหลักฐานความผูกพันทางครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคมอื่นๆ ที่มีต่อประเทศนอกสหรัฐฯ โดยไม่มีญาติ นายจ้าง หรือเพื่อนคนใดที่สามารถ “รับประกัน” ได้ว่าผู้สมัครจะเดินทางกลับจากสหรัฐฯ แทนที่หลักฐานที่กล่าวมาได้ โดยไม่คานึงว่าผู้ใดเป็นผู้สนับสนุนการเดินทาง เจ้าหน้าที่กงสุลจะพิจารณาสถานการณ์ของผู้สมัคร และตัดสินว่าบุคคลดังกล่าวมีคุณสมบัติได้รับวีซ่าตามที่กาหนดไว้หรือไม่ ตามกฎหมายแล้วผู้สมัครวีซ่ามีหน้าที่แสดงให้เห็นว่าตน มีคุณสมบัติได้รับวีซ่า การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จอาจทาให้ท่านไม่ได้รับวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ตลอดชีวิต ชนิดของหลักฐานที่สามารถใช้ได้ - ผู้สมัครวีซ่าแต่ละรายมีสถานการณ์ทางครอบครัว สังคม และอาชีพที่แตกต่างกันอย่างมาก เนื่องจากผู้สมัครแต่ละรายมีสถานการณ์เฉพาะบุคคล จึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าหลักฐานความผูกพันชนิดใดมีแนวโน้มที่จะทำให้ เชื่อมั่นได้ เจ้าหน้าที่กงสุลจะพิจารณาจากข้อมูลที่ผู้สมัครจัดหามาให้ ตามที่ได้แจ้งไว้ข้างต้นว่าไม่มีเอกสารอื่นใดที่ผู้สมัครจาเป็น ต้องยื่น นอกจาก หน้ายืนยันแบบฟอร์มการสมัครวีซ่า หนังสือเดินทาง ใบเสร็จการชาระค่าธรรมเนียมการสมัครวีซ่า และแบบฟอร์ม ที่ออกโดยหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หรือสถานศึกษาตามข้อกาหนดของรัฐบาลสหรัฐฯ สาหรับผู้สมัครวีซ่าบางประเภท เช่น แบบฟอร์ม I-797 จากสานักงาน USCIS และแบบฟอร์ม I-129 สาหรับผู้สมัครวีซ่าที่กาหนดให้ต้องยื่นคาร้องหรือแบบฟอร์ม I-20 หรือ แบบฟอร์ม DS-2019 สาหรับนักเรียนหรือผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน เราขอให้ผู้สมัครนาหนังสือเดินทางเล่มเดิมมาด้วย โดยเฉพาะหนังสือเดินทางที่มีวีซ่าสหรัฐฯ ที่ออกให้ภายในช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา |